กีฬาวัวชน กีฬาดั้งเดิม ยอดฮิตของไทย
กีฬาวัวชน การชนวัวเป็นกีฬาชนิดหนึ่งของภาคใต้ที่นิยมกันมากมาย มีการพนันได้เสียกันเป็นหมื่นเป็นแสน กีฬาชนวัวในภาคใต้คงจะได้รับอิทธิพลมาจากประเทศโปรตุเกส ครั้งในยุคพระผู้เป็นเจ้าเอมมานูลเอลที่ประเทศโปรตุเกสแต่งราชทูตเข้ามาก้าวหน้าทางพระราชไมตรีใน พุทธศักราช 2061 ซึ่งตรงกับยุคพระรามาหัวหน้าที่ 2 ที่กรุงศรีอยุธยา นครศรีธรรมราช จังหวัดปัตตานี แล้วก็เมืองมะริด ชาวประเทศโปรตุเกสได้เข้ามาเผยแพร่ขนบประเพณีหลายประเภท เป็นต้นว่า การต่อว่าดตลาดนัด แนวทางการทำเครื่องกลบ แล้วก็การชนวัวรวมอยู่ด้วย โดยแต่เดิมนั้นการชนวัวมีจุดประสงค์เพื่อความสนุกเพลินกับเกมกีฬาต่อสู้เป็นหลัก โดยคัดวัวชนจากวัวประจำถิ่นที่มีลักษณะสมควรเอามาชน สถานที่ชนวัวจะเป็นแหล่งรวมมวลชนในเขตแดน ในอดีตกาลใช้พื้นที่ตามท้องไร่ทุ่งนาข้างหลังเก็บเกี่ยวผลิตผล แม้กระนั้นในตอนนี้มีสถานที่เฉพาะสำหรับในการชนวัวเกิดขึ้น ซึ่งเดิมคนสามัญมักเรียกว่า “บ่อนวัวชน”
เนื่องจากว่ามวลชนที่เข้ามาดูเกมกีฬาชนวัวมักเล่นการเดิมพันด้วย ด้วยเหตุนั้นการเล่นการเดิมพันชนวัวก็เลยได้ถูกใส่อยู่ในพ.ร.บ.การเดิมพันพ.ศ. 2478 ดังนี้ เพื่อข้าราชการภาครัฐสามารถดูแลความเรียบร้อยได้ วัฒนธรรมการชนโคของคนใต้จากสมัยก่อนจนกระทั่งตอนนี้ได้มีพัฒนาการมาตามลำดับ การจัดชนวัวในตอนนี้ได้คิดถึงเหตุผลอื่นๆที่สำคัญมากนอกเหนือจากการพนัน ตัวอย่างเช่น เศรษฐกิจชุมชน ความเกี่ยวพันของมวลชน การมีอาชีพของคนภายในชุมชน สถานที่เที่ยว การผ่อนคลายของคนวัยชรา และก็ประการสำคัญเป็นการรักษากรรมพันธุ์ของวัวประจำถิ่นไม่ได้หายสูญไป
สำหรับกีฬาชนวัวในอำเภอสิงคราวคร นับว่าเป็นกีฬาพื้นเมืองยอดนิยมประเภทหนึ่ง โดยมองเห็นได้จากการที่อำเภอสิงครั้งครมีสนามชนวัวที่ได้รับอนุญาตอย่างแม่นยำตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชนบ้านชิงวัว ตำบลสทิงหม้อ ทั้งวิถีชีวิตของมนุษย์ที่จะสามารถพบเจอการเลี้ยงวัวบิดาระจายอยู่ทั่วพื้นที่ ซึ่งถือว่าการประลองชนโคเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมที่สำคัญของประชาชนมาอย่างช้านาน ดังนี้กีฬาชนวัวยังนับว่าเป็นกีฬาที่ผูกมิตรของคนภายในชุมชน ในสมัยก่อนการชนวัวมีการจับกลุ่มกันไปชน เพราะว่าฐานรากของการเลี้ยงวัวชนปรับปรุงมาจากฐานของชุมชนที่วัวตัวหนึ่งมีการซ้อมแล้วก็เดินอยู่ในชุมชนนั้นๆและก็กำเนิดความสัมพันธ์ กว่าจะเป็นวัวชนสักตัวก็เลยผ่านวิธีการด้านสังคมที่ราษฎรต่างมองเห็นกันจนเกิดความเคยชิน
กำเนิดความไว้เนื้อเชื้อดวงใจกันจนถึงแปลงเป็นความสัมพันธ์ของคนภายในชุมชน เมื่อวัวออกไปชิงชัยกับโคจากต่างพื้นที่บางคราวก็จะมีการเก็บเงินที่ใช้ในการเดิมพันจากหมู่บ้าน ด้วยเหตุผลดังกล่าววัวชนก็เลยเป็นเครื่องหมายของชุมชน กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากชนะก็ชนะอีกทั้งหมู่บ้าน ถ้าหากแพ้ก็แพ้อีกทั้งหมู่บ้าน ด้วยกันแพ้ ด้วยกันชนะ เป็นวิถีที่ชี้ให้มองเห็นการใช้โคเป็นกีฬา เป็นการละเล่นเนื่องจากกีฬาชนโคมิได้มีเพียงแค่การนำวัวไปชนกันที่สนามเพียงอย่างเดียวแม้กระนั้นยังสะท้อนให้มองเห็นถึงความคิดการเลี้ยงวัวชน ตั้งแต่กรรมวิธีเลือกเฟ้นโคชนที่ถูกตามรูปแบบของวัวชนที่ดี ขั้นตอนการเลี้ยงวัวชน ความศรัทธาต่างๆจนกระทั่งกฎข้อตกลงการประลองที่มีการตกทอดจากบรรพบุรุษ กีฬาวัวชนยังเป็นกลไกการขับเขยื้อนเศรษฐกิจในพื้นที่ ดังเช่น การว่าจ้างคนเลี้ยง ว่าจ้างคนตัดต้นหญ้า หรือแม้กระทั้งมีการชิงชัย พ่อค้าแม่ค้าก็จะมีรายได้จากผู้ที่มาดูการประลอง
“ วัวชน ” กีฬาพื้นเมืองที่โด่งดังสูงที่สุดอย่างหนึ่งของชาวภาคใต้
วัวชน หรือ ชนวัว เป็นกีฬาประจำถิ่นของภาคใต้ สำหรับในประเทศไทยอาจเป็นความนิยมที่เริ่มมาจากการเลี้ยงวัวไว้บริโภคของคนมุสลิม แม้กระนั้นพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ปรากฏความนิยมอยู่บ้างเช่นกัน ซึ่งการแข่งขันเพื่อความสนุกนี้อาจมีให้ประสบพบเห็นได้จนถึงประเทศลาว การแข่งขัน ทำโดยการปลดปล่อยวัวหนุ่มที่แข็งแรงให้พ้นจากคอก ให้วัวตัวผู้ทั้งสองฝ่ายตรงปรี่เข้าปะทะกัน ใช้พลังรวมทั้งอาวุธเป็นเขาเข้าต่อสู้ สัตว์ทั้งคู่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงยืนหยัดต่อสู้ไม่ยินยอมถอยเพื่อชัยชนะ ส่วนใหญ่ของผู้ชมที่ล้อมรอบรอคอยดูการชนวัวนั้น ล้อมรอบกันอัดแน่น เพื่อต้องการเห็นชัยชนะ แล้วก็กำลังความแข็งแกร่งของวัวผู้ตัวที่ชนะ บางคนก็เลือกที่จะดูร่างกายที่งามของวัว ซึ่งเป็นสัตว์ที่ผูกพันกับวิถีชีวิตทุกวันของพวกเขา แต่ว่าโดยมากมักเพิ่มการเดิมพัน เพื่อเพิ่มการลุ้นแล้วก็การเชียร์วัวตัวที่ถูกใจได้มากเพิ่มขึ้น
วัวที่นิยมใช้แข่งขัน เป็นวัวที่มีรูปร่างบึกบึนล่ำสัน เขา ท่อนหัว ลำตัว แล้วก็ขาหน้า จะต้องแข็งแรง เมื่อวิ่งเข้าปะทะหัวชนกัน เสียงดังกึกก้อง เมื่อตัวใดตัวหนึ่งไม่ยินยอมถอยหรือวิ่งหนี ก็จะต้องชนกันจนที่ฝ่ายข้างใดข้างหนึ่งไม่มีแรงหรือได้รับบาดเจ็บจนถึงแพ้ไป
ลักษณะตามสีที่นิยมกันว่าเป็นวัวดีนั้นคือ
คุณสมบัติของวัวชน
๑. คร่อมอกใหญ่ ให้หาคร่อมอกใหญ่ๆอย่างคร่อมอกเสือถึงจะดีมีกำลังเดินทางมาก
๒. ท้องใหญ่ มีกำลังเดินทางมากชนได้เป็นเวลายาวนานกว่าวัวท้องเล็ก
๓. กระดูกใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น กระดูกเท้าใหญ่เสมือนเท้าควายจะดีเลิศ
๔. คอยาวใหญ่ จะเป็นวัวที่แข็งแรงรวมทั้งแก้เหนื่อยงได้ดิบได้ดี กว่าแล้วก็เร็วกว่าวัวคอสั้น แม้กระนั้นคอบางราวกับคอกวางไม่ดี
๕. หนอก ถ้าหากรูปก้อนเส้าถึงจะดี ถ้าหากแบนเป็นใบพัดไม่ด
๖. เขาให้หาเขาใหญ่ๆถึงจะดี รวมทั้งหากมีขนขึ้นปิดโคนเขาก็จะดีเลิศ
๗. หน้าวัวแคบ เป็นระหว่างเขาแคบถึงจะดี เนื่องจากว่าหากหน้าวัวแคบส่วนใหญ่เขาจะใหญ่
๘. ขนคิ้ว ให้หาขนคิ้วครึ้มดวงตาไม่ถลนถึงจะด
๙. ตาเล็ก ที่เรียกว่า “ตาดุก” เป็นตาเล็กราวกับตาปลาดุกถึงจะดี
๑๐. ใบหูเล็ก ให้หาที่ใบหูเล็กเสมือนหูม้าถึงจะดี แล้วก็หากมีขนในหูมากมายก็ยิ่งดี
๑๑. เค้าหน้าแยบคายสะอาดถึงจะ
๑๒. หน้าผากหรือหน้าหัวถ้าหากมีขนมาก หรือขนเกลื่อนกลาดถึงจะดี
๑๓. ข้อเท้าให้เลือกหาข้อเท้าสั้นๆจะดีเลิศถ้าเกิดข้อเท้ายาวไม่ดี
๑๔. เล็บ ให้เลือกหาเล็บใหญ่ที่เรียกว่า “เล็บพรก” (เล็บเหมือนกะลามะพร้าวคว่ำ) ถึงจะดี เล็บยาวหรือเล็บตรงไม่ดี
๑๕. หาง ให้เอาที่หางเล็กเรียวจะดีเยี่ยม แต่ว่าถ้าเกิดหางใหญ่ไม่ดี แม้กระนั้นโคนหางใหญ่ดี
๑๖. ขนหาง ให้หาขนหางเล็กๆราวกับด้าย เส้นไหมและก็ถ้าเกิดขนหางบิดนิดๆจะดีเลิศ ขนหางยาวหยาบคาย หรือขนหางเป็นพวงงอที่เรียกว่า “หางโพ่ย” ไม่ดี
๑๗. อัณฑะ ให้หาที่มีลูกอัณฑะเล็ก รวมทั้งปลายอัณฑะปิดนิดๆหรือยานตวัดไปด้านหน้าจะดีงาม ยิ่งถ้าเกิดมีลูกอัณฑะเพียงแค่ลูกเดียวก็ยิ่งดีงาม เรียกว่า “อ้ายหน่วย” หรือ “ทองแดง” “ไข่ทองแดง” เป็นวัวที่หายาก
๑๘. ลึงค์ ให้หาที่ลึงค์ยาวใหญ่ๆถึงจะดี หากลำลึงค์ยาวตั้งแต่ลูกอัณฑะจนกระทั่งกึ่งกลางท้องแสดงถึงการมีพลังมากมาย ถ้าหากมีขนที่ปากลำลึงค์ดกมากมายแสดงถึงความมีใจสู้ไม่ค่อยยอมคู่ปรปักษ์กล้วยๆ
๑๙. ขน ให้หาที่ขนละเอียด มัน ก็เลยจะดี ถ้าเกิดแห้งเป็นไม่วาวก็จะดีเยี่ยม (สำหรับข้อนี้ละเว้นเฉพาะวัวนิลเพชรแค่นั้น เนื่องจากวัวนิลเพชรจะมีขนดำวาว หรือขนแฉะ)